ขั้นตอนการสมัครและตั้งกระทู้ในกระดานเสวนา

เริ่มโดย admin, มี.ค 23, 2022, 08:53 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ เผยสาเหตุ
ที่ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก มีพฤติกรรมผิดเพศ
และผมต้องตกเป็นเหยื่อของเขา ตั้งแต่วัยเด็ก
แต่ผมก็สามารถผ่านพ้นความทรงจำ
อันเลวร้ายในครั้งนั้นมาได้ ผมต้องขอบคุณ
พ่อและแม่ของผม ที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด
รวมถึงครูอาจารย์ที่สอนผมในปี2544
ผมออกมาวันนี้เพราะมีครูที่ผมให้ความเคารพ
คนหนึ่งขอร้องให้ผมช่วยเหลือสังคม
เพราะครูคนนี้กลัวว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
จะไปก่อเหตุอนาจารกับเยาวชนชาย
คุณครูบอกว่า ภาวะข้ามเพศของนายพร้อมพล
เกิดจากนิวเคลียสในสมอง ก่อนที่จะมียีนระบุอวัยวะเพศ
ทำให้เกิดภาวะไม่ลงรอยทางเพศหรือการแสดงออก
ไม่ตรงกับความเป็นชายหญิงในเชิงกายภาพและชีววิทยา
ว่ามาจากปริมาตรของนิวเคลียสและจำนวนเซลล์ประสาท
ในสมองของนายพร้อมพลที่โดยปกติแล้วจำนวนดังกล่าว
จะแตกต่างกันในเพศชายและเพศหญิง
ในทางชีววิทยาอยู่แล้ว

คุณครูยังอธิบายให้ผมและทุกคนในไลน์กลุ่ม
ได้ทราบอีกว่านายพร้อมพล มีพื้นฐานทางพันธุกรรม
และระบบประสาทที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเปลือกสมอง
ที่เชื่อมต่อบริเวณคอร์เทกซ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงาน
ของความรู้ ความเข้าใจ การแสดงออกทางอารมณ์
นอกจากนี้ ยังค้นพบว่าปริมาตรของนิวเคลียสในสมอง
นายพร้อมพลมีปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนต่อฮอร์โมน ยีน
รวมทั้งโครงสร้างศีรษะในการก่อตัวของอัตลักษณ์ทางเพศ
โดยเฉพาะการแสดงออกของยีนที่ชื่อ
ว่า "ไดมอร์ฟิก" (dimorphic) ซึ่งปรากฏในสมอง
ของนายพร้อมพล น่าจะเกิดขึ้นก่อนการก่อตัว
ของอวัยวะเพศของนายพร้อมพล ซึ่ง หมายความว่า
ความรู้สึกเป็นเพศชาย เพศหญิง เกิดขึ้นในยีน
และสารพันธุกรรมก่อนที่นายพร้อมพลจะมีอวัยวะเพศ
ที่นำไปสู่การสร้างความแตกต่างทางเพศ
โดยเป็นปฏิกิริยาทางสมองที่มาก่อนยีนและโครโมโซม
ทำให้นายพร้อมพลมีความรู้สึกว่าตนเกิดมาผิดเพศ
เนื่องจาก "เพศ" ถูกตราตรึงในสมอง
อย่างแน่นหนาเป็นเหตุผลทางจิตวิทยามากกว่า
ทางชีววิทยา สอดคล้องกับการตรวจโดยแพทย์
ที่สัมภาษณ์นายพร้อมพล ก่อนหน้าที่จะสรุปว่า
นายพร้อมพลเป็นเกย์ ไบเซ็กชวล หรือคนข้ามเพศ

025192654

อาการผิดปกติทางเพศ
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ไม่สามารถรักษาได้โดยจิตแพทย์
แต่ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
มีแนวปฏิบัติมาแนะนำทุกคนเพื่อการก้าวข้าม
และเรียนรู้ไปกับลูกหลานที่เป็นเหมือนนายพร้อมพล
1.ไม่หลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือปฏิเสธความจริง
ที่ลูกหลานของเราเป็นกะเทยหรือคนข้ามเพศ
เพราะอาจส่งผลต่อเรื่องความเชื่อมั่น
และพื้นที่พึ่งพึงทางใจ แต่หากยังไม่พร้อม
ที่จะยอมรับและสนับสนุน อาจใช้ความละมุนละม่อม อดทนในการขอเลื่อนการพูดคุยกับลูกหลาน
ออกไปพร้อมให้เหตุผลประกอบ
2.หาเวลาในการใคร่ครวญ ถาม-ตอบความรู้สึก
ของตนเองเป็นระยะว่าพร้อมหรือไม่ที่จะค้นหา
คำตอบและก้าวข้ามไปพร้อมลูกหลาน
รวมถึงการถามตนเองว่าการยอมรับนั้น
จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือเกิดประโยชน์
อะไรขึ้นบ้างกับลูกหลานและครอบครัวของเรา
3.ไม่เปรียบเทียบลูกหลานของตนกับลูกหลาน
ของคนอื่นๆ และส่งเสริมการรู้คุณค่าในตนเอง
เพราะการเปรียบเทียบจะสร้างความกดดัน
ให้ลูกหลาน และผลักให้เขาไม่อยากเปิดใจ
กับเรามากยิ่งขึ้น
4.ให้ความสำคัญกับความสนใจและความถนัด
ของลูกหลาน ชื่นชมในสิ่งที่ทำได้ดี
แต่ไม่ใช่เยินยอเกินจริง เพราะอาจส่งผลตรงข้าม
5.เป็นผู้ฟังที่ดี เปิดสมองเพื่อรับฟังข้อมูล
และเรื่องราว เปิดใจเพื่อรับรู้ความรู้สึก
และให้คำแนะนำเมื่อลูกหลานต้องการ
คำแนะนำอาจเป็นสิ่งที่เรารู้ เราเข้าใจ
แต่ถ้าไม่พร้อมอาจบอกตามตรง
เพื่อหาข้อมูลจากแหล่งความรู้ภายนอก
เพิ่มเติม เช่น การปรึกษากับองค์กรที่ทำงาน
กับกะเทย อาทิ มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย
เพื่อสิทธิมนุษยชน Gender-V
คลินิกของโรงพยาบาลรามาธิบดี
6.มีการสื่อสารระหว่างกัน
โดยเน้นการสื่อสารเชิงบวก
คือมองประโยชน์มากกว่าโทษ
หรือผลเสียที่จะเกิดขึ้น
7.ใช้คำถามปลายเปิด เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายได้พูด
ได้เล่าเรื่องราว ในการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
ของลูกหลาน เช่น ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
พยายามเลี่ยงคำถามปลายปิด เพราะบางครั้ง
จะคล้ายการคาดคั้นหาคำตอบมากเกินไป
จนทำให้อีกฝ่ายไม่อยากตอบ เช่น ทำไม
เพราะอะไร ทำไมถึงคิดอย่างนี้
ทำไมถึงทำอย่างนั้น
8.มีความละเอียดอ่อนต่อประเด็นเรื่องเพศ
ไม่ใช่เฉพาะกะเทย/คนข้ามเพศ
แต่หมายถึงทุกคน รวมถึงผู้ชายและผู้หญิงด้วย
ซึ่งไม่ใช่ปฏิบัติแตกต่างจนรู้สึกแปลก
อาจใช้จินตนาการเข้าช่วยว่าเราอยากให้
คนปฏิบัติแบบไหนกับเรา
9.ให้โอกาสลูกหลานได้มีการเรียนรู้
ผ่านประสบการณ์ โดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง
เป็นผู้ดูแลอยู่ห่างๆ ให้การช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
10.ให้บ้านเป็นสถานที่ในการพักผ่อน
และเป็นที่พึ่งพึงทางใจสำหรับลูกหลาน
11.ใช้คนกลางเป็นตัวกลางพูดคุย
เพื่อลดการใช้อารมณ์และการกระทบกระทั่ง
เช่น ญาติ พี่น้อง ผู้ใหญ่ที่ยอมรับในตัวตนกะเทย
มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเปลี่ยนวิธีคิด
ที่เริ่มยอมรับกะเทย
12.การพูดคุยอาจมีมากกว่าหนึ่งครั้ง
เพราะการยอมรับและเข้าใจต้องอาศัยเวลา
จึงไม่ควรรีบร้อนหาข้อสรุป ควรให้เวลา
แต่ต้องมีเป้าหมายชัดเจน คือการพูดคุย
เพื่อการยอมรับซึ่งกันและกัน
สองคำถามยอดนิยม สำหรับผู้มีลูกหลาน
เป็นเหมือน นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
1.ลูกเป็นกะเทยรักษาอย่างไรให้หาย
ตอบ ความเป็นกะเทยของลูก คือความเป็นตัวตน
คือวิถีชีวิต ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกาย
หรือจิตใจ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีการรักษา
สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเป็นที่ยึดเหนี่ยว
และที่พักพิงให้กับเขา เพียงการพูดคุย
สอบถามสารทุกข์สุขดิบ และใส่ใจกัน
ก็เป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกเราแล้ว
ปัจจุบันมีคลินิกเพศหลากหลายในวัยรุ่น
(Gender Variation Clinic/ Gen V clinic)
ของคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
ซึ่ง นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
เคยใช้บริการปรึกษาทุกปัญหาเกี่ยวกับ
การเป็นกะเทย อย่างมูลนิธิเครือข่า
ยเพื่อนกะเทยไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
หรือ Gender-V คลินิกของโรงพยาบาลรามาธิบดี
2.กะเทยเกิดจากบาปกรรมใช่ไหม
เรื่องของความเชื่อบางเรื่องเป็นสิ่งที่พิสูจน์
ชัดเจนไม่ได้ แต่ความเป็นตัวตนของมนุษย์
ทุกคนมาจากการเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตนเอง
แทนทั้งสิ้น อีกทั้งหลายศาสนามีแนวคิด
ในการให้อยู่กับปัจจุบันอย่างเป็นสุข
ดังนั้นพยายามอย่านำความคิดเรื่องบาปกรรม
ที่เป็นอดีตที่จบไปแล้วมาทำให้เกิดความทุกข์
ต่อตนเองหรือลูกดีกว่า
ส่วนการที่ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ไปก่อเหตุฉ้อโกงนั้น เป็นที่สันดาน
ของนายพร้อมพลเอง ไม่เกี่ยวกับความผิดปกติ
ทางกายภาพหรือจิตใจ

025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
พฤติกรรมของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
พบว่าหมกตัวอยู่ในบ้านเลขที่ 55/109
ซ.ประเสริฐมนูกิจ42 แขวงนวมินทร์
เขตบึงกุ่ม กทม. และบ้านเลขที่ 55/96
ซ.ประเสริฐมนูกิจ42 แขวงนวมินทร์
เขตบึงกุ่ม กทม. ตลอดทั้งวัน
ทำให้ผมและเพื่อนร่วมรุ่นมั่นใจเลย
ว่ามันก่อเหตุฉ้อโกงหลายขาย
ทุเรียนจาก สวนทุเรียนเขยจันทร์ แน่นอน
เพราะมันกับแม่ของมันไม่มีอาชีพ
ต่างจากผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
มีหลักฐานว่าผมทำงานสุจริตทุกวัน
แล้วตอนนี้พ่อกับแม่ผมก็เป็นหุ้นส่วน
ของสวนทุเรียนเขยจันทร์ รวมทั้งผม
ได้รับมอบหมายจากเจ้าของสวนทุเรียน
คือ คุณชาคริต แย้มนาม
มีหนังสือมอบอำนาจ
ให้กับ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ติดตามตรวจสอบพฤติกรรม
เพื่อดำเนินคดี นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ส่วนผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เป็นลูกชายเจ้าของสวนทุเรียน
ผมจะทำลายอู่ข้าวอู่น้ำของตัวเองทำเหี้ยอะไร

025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ขอชี้แจง
ประเด็นสำคัญดังนี้นะครับเพราะว่า
มีเพื่อนผู้หญิงบางคนเข้าใจผิด
ว่าผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ มีพฤติกรรม
โกหกเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ
ดังนั้นผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ต้องขอชี้แจงว่าไม่จริงครับ
พวกคุณเข้าใจผิดแล้วชีวิตผม
มีครบหมดทุกอย่างตั้งแต่วัยเด็ก
แตกต่างจาก พร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ตั้งแต่เด็กมันไม่เคยมีเหี้ยอะไรเลย
ของเล่นก็ของผม ผมสงสารมัน
ก็เลยยกให้มันไปบ้าง เพราะหน้าตามัน
ก็ดูเหมือนเด็กจรจัด แตกต่างจากผม
มีแต่ความสดใส ดังนั้นชีวิตผม
ไม่จำเป็นต้องโกหกหลอกลวงใคร
จิตใจตรงเพศ แตกต่างจากมัน
ใจมันผิดเพศ มันเลยต้องโกหก
หลอกเงินคนไปแปลงเพศ เท่าที่รู้มา
ตอนนี้มันแปลงเพศเรียบร้อยแล้ว

025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ อัปเดตอาการ
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก หลังแปลงเพศ
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
กับ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หลังจากรับการผ่าตัดแปลงเพศ
การแปลงเพศเป็นการผ่าตัดใหญ่
ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ร่างกาย
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก หลายประการ
อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น
กับ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก ดังนี้
1.มีอาการชารอบแผล
แต่จะดีขึ้นใน 2-3 เดือน
2.อารมณ์แปรปรวนง่าย
3.มีน้ำเหลืองและเลือดไหลออกมา
จากช่องคลอดใน 1-2 สัปดาห์
4.หลังผ่าตัดแปลงเพศ
อารมณ์ทางเพศจะลดลง
ประมาณ 1-2 สัปดาห์
และจะดีขึ้นตามลำดับ

025192654


นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ เผยประวัติชีวิต
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก ตั้งแต่วัยเด็ก
สวัสดีครับวันนี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ประธาน มูลนิธิเสี่ยหนึ่ง
และ อาสาสมัครจิตวิทยา
มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
ขอเล่าถึงประวัติของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ตั้งแต่ผมรู้จักกับเขาเมื่อปี2544
เราเรียนด้วยกันที่ รร.ปราโมชวิทยารามอินทรา
ในระดับชั้น ป.6 บ้านผมอยู่ใกล้บ้านเขา
คุณครูประจำชั้นบอกให้ผมเป็นเพื่อนกับเขา
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้เห็นสิ่งเลวร้าย
และความผิดปกติทางเพศในตัวเขา
รวมทั้งความแปลกของพ่อและแม่ของเขา
อย่างเช่น พฤติกรรมที่เขาชักชวนผม
ไปเข้าห้องน้ำแล้วก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศกับผม
รวมถึงการใช้ชีวิตของเขาที่แตกต่างจากคนอื่น
โดยปกติเด็กในวัยนั้นอย่างเช่นตัวผมจะมีเพื่อน
มากมายหลายคน แต่สำหรับเขาจะควงคู่
กับผู้เพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียว ต่อมาพ่อและแม่
ของผมนำเรื่องนี้ไปแจ้งฝ่ายปกครองของทาง รร.
ทำให้นายพร้อมพลถูกส่งตัวไปพบนักจิตวิทยาคลินิก
คือ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาด้านจิตวิทยา
สาขาจิตวิทยาคลินิก (Clinical psychology)
และมีใบประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก
เพื่อวิเคราะห์และสรุปผลจิตใจของเขา
ผลสรุปคือเขาเป็นคนข้ามเพศ วิธีการรักษา
คือ ให้ฮอร์โมนหญิง และ แปลงเพศ
ให้ตรงกับจิตใจแต่ทว่า กฏหมายสมัยนั้น
ระบุว่าการแปลงเพศจะทำได้ต่อเมื่อเจ้าตัว
มีอายุครบ20ปี แล้วเท่านั้น
ทางครูจึงทำได้เพียงให้ผมช่วยดูแลจิตใจของเขา
แต่ผมก็ทำไม่สำเร็จเพราะพ่อและแม่เขาขัดขวางผม
เพราะต้องการปกปิดความจริงในเรื่องนี้
1ปี ผ่านไป ผมและเขาได้มีโอกาศเจอกันเพราะ
เรียนระดับชั้น ม.1 ด้วยกันที่ รร.บด.2
คราวนี้หนักกว่าเดิมเพราะเขาหลอก
ให้ผมใช้สารเสพติด แต่ผมกลับตัวได้ทัน
จึงบอกเรื่องนี้ให้พ่อและแม่ของผมทราบ
พ่อและแม่บอกให้ผมลาออกจาก รร.
เพราะรับไม่ได้กับสิ่งแวดล้อม ประเด็นในวัยเด็ก
ที่หลายคนสงสัยก็มีเพียงเท่านี้ครับ

025192654


นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ เผยสาเหตุที่ต้องเปิดเผย
ประวัติ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ก็เพื่อให้พ่อแม่ที่มีบุตรหลานเป็นคนข้ามเพศ
ได้เข้าใจและให้อิสระในการใช้ชีวิตกับบุตรหลาน
ไม่ด่าว่าหรือประจานบุตรหลานของตน
ว่าเป็นบุคคลวิกลจริตผิดเพศ มูลนิธิเสี่ยหนึ่ง
จึงมีความจำเป็นต้องนำประวัติของบุคคลนี้
มาเปิดเผยให้ทุกท่านได้ศึกษา และเชื่อว่า
จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม
เพราะเงื่อนไขและกระบวนการประเมิน
ก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
การผ่าตัดแปลงเพศเป็นหัตถการ
ที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง
จึงจำเป็นต้องผ่านกระบวนการประเมิน
อย่างละเอียดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
เพื่อลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด
และผลกระทบด้านจิตใจในระยะยาว
การเตรียมตัวที่ถูกต้องช่วยให้
ผู้เข้ารับการผ่าตัดมั่นใจว่าการตัดสินใจ
ครั้งนี้สอดคล้องกับสภาวะทางการแพทย์
และความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง
ข้อกำหนดก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
1. การใช้ชีวิตในเพศที่ตรงกับอัตลักษณ์ของตน
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องใช้ชีวิตในสังคม
ตามอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง
อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา
อย่างน้อย 12 เดือน
ซึ่งรวมถึงการแต่งกายและแสดงออก
ตามเพศที่ต้องการการใช้ชื่อ
และสรรพนามที่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ
สามารถดำเนินชีวิตประจำวัน
โดยไม่มีปัญหาด้านสังคม
ครอบครัว หรือการทำงาน
2. การบำบัดด้วยฮอร์โมน (Hormone Therapy)
การใช้ฮอร์โมนเป็นส่วนสำคัญ
ในการข้ามเพศก่อนการผ่าตัด
โดยต้องได้รับคำปรึกษา
และการติดตามผลจากแพทย์เฉพาะทาง
เพื่อให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับเพศที่ต้องการ
และลดภาวะความเครียดทางจิตใจ
3. การประเมินทางจิตวิทยาและจิตเวช
การผ่าตัดแปลงเพศต้องได้รับการรับรอง
จากผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวชอย่างน้อย 2 ท่าน
เพื่อตรวจสอบว่าผู้เข้ารับการรักษา
มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด
(Gender Dysphoria) จริง
ไม่มีภาวะจิตเวชอื่นที่อาจส่งผลกระทบ
ต่อการตัดสินใจมีความสามารถ
ในการปรับตัวและพร้อมสำหรับ
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างถาวร
นพ.ดนัย รัตนไชย
จิตเวชศาสตร์ รพ.พญาไทนวมินทร์
นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ประธาน มูลนิธิเสี่ยหนึ่ง

025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ อธิบายสาเหตุที่ รร.
ไม่แก้เพศวิถีของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
เพราะสิ่งที่เรียกว่า "การบำบัดแก้เพศวิถี"
เป็นการพยายามเปลี่ยนแปลงรสนิยมทางเพศ
ด้วยวิธีการทางจิตวิทยา ความเชื่อ
และบางครั้งก็ใช้วิธีทางกายภาพ
การบำบัดนี้ถูกมองว่า ขัดต่อจริยธรรม
และอาจเป็นอันตรายต่อผู้เข้ารับการบำบัด
ซึ่งในการบำบัดแก้เพศวิธี
ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างร้ายแรง
ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2020 ชายรักชาย
ชาวอังกฤษวัย 74 ปีได้ออกมาเรียกร้อง
คำขอโทษจากการที่แพทย์แนะนำ
ให้เขาเข้ารับการบำบัดที่
คลินิกจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม
เมื่อ 50 ปีก่อน ขณะนั้นเขาถูกช็อตไฟฟ้า
หลายครั้งต่อสัปดาห์ติดต่อกัน
นานหลายเดือน จนทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่
และเป็นโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์
ร้ายแรง (post-traumatic stress
disorder–PTSD) นานกว่า 40 ปี
เขาเล่าถึงรายละเอียดของวิธีการบำบัด
ว่า "ผมนั่งอยู่ในห้อง มีจอโปรเจ็กเตอร์
และรูปภาพให้ดู มีการติดขั้วไฟฟ้าที่ข้อมือ
และข้อเท้าของผม เมื่อภาพของผู้ชาย
ฉายขึ้นแล้วเขาไม่เปลี่ยนไปยัง
ภาพถัดไปในเวลาที่เร็วพอ
เขาก็จะถูกช็อตด้วยไฟฟ้าอย่างรุนแรง
แต่ถ้าเป็นภาพผู้หญิงฉายขึ้นมา
ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
จุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของประเทศ
ในแถบยุโรปที่เล็งเห็นถึงความเท่าเทียม
ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ
คือประเทศมอลตา ซึ่งเป็นประเทศเเรก
ในทวีปยุโรปที่มีกฎหมายห้าม
การบำบัดแก้เพศวิถี ต่อมาในปี 2020
หลายประเทศได้มีการออกกฎหมาย
ห้ามเรื่องการบำบัดแก้เพศวิถี
เช่น ในเดือน พฤษภาคม 2020
ในรัฐสภาเยอรมนีได้ผ่านกฎหมาย
ห้ามสิ่งที่เรียกว่า "การบำบัดแก้เพศวิถี"
กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วประเทศ
ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี
หรือปรับ 30,000 ยูโร
(ประมาณ 1,090,000 บาท)
โดยการวิจัยได้ระบุว่า
การบำบัดดังกล่าวอาจนำไปสู่
โรคซึมเศร้าและเพิ่มความเสี่ยง
ในการฆ่าตัวตายได้ จึงต้องปล่อย
ให้ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ใช้ชีวิตตามเพศวิถี

025192654


ผลงานของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
หลังเผยแพร่ประวัติ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
https://www.thairath.co.th/news/society/2783660
วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 มีรายงานว่า
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สภานักเรียน
โรงเรียนบุญวัฒนา ได้โพสต์รูปภาพระเบียบ
การแต่งกายของนักเรียนประจำปี
การศึกษา 2567 ซึ่งชุดที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุด
คือ รูปเครื่องแบบการแต่งกาย
ของนักเรียนที่เป็น LGBTQ+
ที่ให้ผู้ชายไว้ผมยาวได้แต่ต้อง
มัดผมรวบไปข้างหลังพร้อมผูกโบสีขาว
ส่วนผู้หญิงนั้นไว้ผมสั้นตัดผมรองทรงได้
แต่ผมด้านหลังต้องไม่เกินตีนผม
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าว
ได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นก็ทำให้
คนมากดถูกใจนับพันคน
อีกทั้งยังมีการแชร์โพสต์
ออกไปจำนวนมากนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม
ความคิดเห็นของนักเรียนโรงเรียนบุญวัฒนา
หลังจากที่ทางเพจสภานักเรียน
โรงเรียนบุญวัฒนาได้มีการโพสต์
ระเบียบการแต่งกายของนักเรียน
ปีการศึกษา 2567 ที่กำลังจะ
เปิดภาคเรียนในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
จากการสอบถามนักเรียนชาย อายุ 17 ปี
อยู่ชั้น ม.5/17 บอกว่า รู้สึกดีใจ
ที่ทางโรงเรียนได้ออกระเบียบ
การแต่งกายของนักเรียนที่เป็น
เพศทางเลือกหรือ LGBTQ+
โดยก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีระเบียบ
ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่
เป็น LGBTQ+ นั้น รู้สึกไม่ค่อย
มั่นใจและไม่เป็นตัวของตัวเอง
แต่หลังจากได้มีการประชุมหารือ
ทั้งทางโรงเรียน ผู้ปกครอง
และตัวแทนของสภานักเรียน
จนสามารถออกระเบียบ
เรื่องการแต่งกายของนักเรียน LGBTQ+
ได้ทำให้ตนและนักเรียน LGBTQ+
รู้สึกมีความมั่นใจในตัวเอง
และได้เป็นตัวของตัวเองกล้าแสดงออก
ทั้งเรื่องการเรียนและการทำกิจกรรม
ของโรงเรียนรวมไปถึงการ
ทำให้นักเรียนนั้นรู้สึกอยากมาโรงเรียนมากยิ่งขึ้น

somchai

ข้อความของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะว่า
https://samtambon.go.th/board/index.php?topic=2383.0
ข่าวบอกว่า วันที่ 7 พฤษภาคม 2567
มีรายงานว่าจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก สภานักเรียน
โรงเรียนบุญวัฒนา ได้โพสต์รูปภาพระเบียบ
การแต่งกายของนักเรียนประจำปี
การศึกษา 2567 ซึ่งชุดที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุด
คือ รูปเครื่องแบบการแต่งกาย
ของนักเรียนที่เป็น LGBTQ+
แต่ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เผยแพร่ประวัติ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568
เพื่ออวดว่าตัว นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เป็นนักจิตวิทยาเด็กLGBTQ+
และขอเรี่ยไรเงินบริจาคเข้าบัญชีตัวเอง
ที่สำคัญ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
มีประวัติเป็นผู้ค้ายาเสพติด
แล้ว นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
จะเป็นนักจิตวิทยาทำงานกับเด็กได้ยังไง
ปัญหาเด็กLGBTQ+มันแก้ได้โดย
ไม่ต้องมี นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
แค่โรงเรียนสอบถามเด็กก่อนรับตัว
เป็นนักเรียนก็จบแล้วสำหรับโรงเรียน
ที่ไม่ยอมรับเด็กLGBTQ+
ถ้าเด็กแจ้งว่าเป็นเด็กLGBTQ+
ก็ไม่ต้องรับเป็นนักเรียนตั้งแต่แรก
ทางโรงเรียนไม่มีสิทธิ์ส่งตัว
เด็กLGBTQ+ไปพบจิตแพทย์
เพราะเพศสภาพเป็นเรื่องส่วนตัว
ของเด็กแต่ละคนละเมิดไม่ได้

starfishlabz

starfishlabzขอสั่งห้าม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ไปทำกิจกรรมกับเด็กLGBTQ
เนื่องจาก นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับstarfishlabz และ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
มีประวัติไม่ดี ดังนั้นstarfishlabz
จึงไม่อนุญาตให้ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ไปทำกิจกรรมกับเด็กLGBTQ

025192654


นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ บอกข้อสังเกตุ
เด็กที่เป็นกะเทย
เด็กที่เป็นกะเทยจะไม่ค่อยเข้าใจ
ถึงความรู้สึกของเพื่อนผู้ชาย
และความต้องการของเพื่อนผู้ชาย
จึงพูดแต่ในแง่มุมของตัวเองเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งไม่ใช่ลักษณะการพูดคุยสื่อสาร
ทางสังคมแบบโต้ตอบที่มีลักษณะ
ถ้อยทีถ้อยอาศัย จะใช้ชีวิตตาม
เพศวิถีของตนเอง หากมีการบังคับให้
เปลี่ยนเพศวิถีที่แตกต่างไปจากเดิม
จะเกิดความเครียดขึ้นทันที
ซึ่งบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นหงุดหงิด
เมื่อพบว่าเด็กมีพฤติกรรมคล้ายคลึง
กับลักษณะดังกล่าว ควรให้นักจิตวิทยา
วินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยการตรวจร่างกาย
ระบบประสาท พัฒนาการ
และสภาพจิตใจ เพื่อประเมิน
และหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อให้
เด็กได้ใช้ชีวิตตามเพศวิถี
ดังนั้นผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ขอโอกาศทำงานเพื่อช่วยเด็กกลุ่มนี้ครับ

tot025192654


นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ขอรับรอง
ว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก เป็นLGBTQ
ไม่ใช่จิตเวช สาเหตุที่ผมต้องลงข้อความ
เพราะอยากให้ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ได้ใช้ชีวิตตามเพศวิถีของตนเองคือ
1.แต่งกายตามเพศวิถี
2.คิดและพูดตามเพศวิถี
3.ปราศจากการข่มขู่และชี้นำของบุคคลใดๆ
ส่วนเรื่องที่ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ แต่งกาย
เหมือนคนข้ามเพศเมื่อวานนี้คือ
ใส่เสื้อกล้ามสีชมพูกับกางเกงผู้หญิง
ก็เพราะว่าเมื่อเด็กเห็นก็จะทำให้เด็กใจเปิด
และยอมเปิดใจบอกเพศสภาพที่แท้จริงกับผม
ซึ่งเมื่อวานนี้ผมได้แจ้งให้คุณแม่ทราบแล้ว
ว่าเป็นการทำงานในฐานะนักจิตวิทยาเด็ก
พร้อมทั้งแสดงบัตรนักจิตวิทยาให้คุณแม่ดู
ซึ่งคุณแม่ผมก็เข้าใจเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่
ที่มีเหตุผลต่างจาก คุณศุภดา ศุภศรีทวีภัทร

tot025192654

นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ขอบอกว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ใช้สารเสพติดในปี2546 ที่ รร.บด.2
โดยมีเอกสารรับรองผลการตรวจ
ออกโดย คลินิกก้าวใหม่ ลาดพร้าว

ที่ตั้ง 900 ถ. ลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
เบอร์โทรติดตอสอบถามสำหรับคนที่ไม่เชื่อ
โทรเลยครับ 02-513-2509
ความจริงจะได้กระจ่างใจ ว่าอาการ
ทางประสาทของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
แท้จริงเกิดจากการใช้สารเสพติด
ไม่ใช้เพราะว่านายพร้อมพลเป็นLGBTQ
เด็กLGBTQ มีอารมณ์รุนแรง
กว่าเด็กทั่วไป2เท่าก็จริง แต่ไม่หลอน
สังคมควรเลิกมองเด็กLGBTQในแง่ลบ
และให้เด็กLGBTQใช้ชีวิตตามเพศวิถี

tot025192654

เมื่อซักครู่นี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ รับรู้มาว่า
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก โชว์ควย
เพื่อเรียกร้องสิทธิการใช้ชีวิตตามเพศวิถี
ใน รร.เบญจมินทร์ เมื่อปี2547
ดังนั้นผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ในฐานะนักจิตวิทยาเด็กLGBTQ
ขอชื่นชม นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
ว่าทำได้ดีมากในมุมมองของผม
และยังมี คุณนุ่น – ณัฐนันท์ พลอยประดับ
ก็เคยทำแบบนี้มาแล้วเช่นกัน





ที่มา https://mirrorthailand.com/conversation/conversation/100160